top of page

กระแตเกาะกิ่งแก้ว Cultural heritages :The possible competitive edges in today's disrupted world

Writer: Jay JayasiriJay Jayasiri

Updated: Jul 7, 2021


 

เป็นที่ยอมรับกันว่ายุคสมัยแห่งสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง เป็นยุคที่ศิลปะในราชสำนักสยามเฟื่องฟูอย่างยิ่ง มีการขนานนามว่า เป็นยุค “Siam Renaissance” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิทยาการประดิษฐ์ดอกไม้สดของกุลสตรีฝ่ายใน จากสำนักสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ




 

งานดอกไม้สดที่ตกทอดมาถึงชีวิตประจำวันของคนรุ่นเราในวันนี้ ยังมีให้เลือกหามากมาย ทั้งจากตลาดขายดอกไม้สด อย่างตลาดปากคลอง (ชื่อเต็มคือ "ตลาดปากคลองบางหลวง") ซึ่งมีทั้งดอกไม้สดนับพันนับหมื่นชนิด อุปกรณ์งานดอกไม้ ชิ้นส่วนพร้อมประกอบ หรือกระทั่งงานสั่งทำที่งดงามสำเร็จรูปพร้อมใช้ เช่น บายศรี พานขันหมาก ไปจนถึงมาลัยต่างๆ อีกหนึ่งสถานที่ที่ยังมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในฝีมือช่างดอกไม้สดที่สืบทอดมาแต่อดีตกาล คืองานสั่งทำจากประตูช่องกุด (ประดิษฐ์โดยข้าหลวงเดิม) ในพระบรมมหาราชวังชั้นนอก ถนนมหาราช (เส้นที่วิ่งมาจากท่าช้างวังหลวง เลียบกำแพงพระบรมมหาราชวังมาถึงแยกวัดโพธิ์) งานดอกไม้ไทยทุกประเภททั้งหมดนี้ มีให้เลือกซื้อ เลือกสั่งทำหลากหลาย เป็นต้นว่า :

มาลัยชายเดียว ใช้สำหรับคล้องแขน หรือบูชาพระ มาลัยสองชาย สำหรับคล้องคอในงานพิธี เช่นงานสมรส หรือมาลัยชำร่วย ใช้แทนคำขอบคุณสำหรับผู้มาร่วมงานพิธีต่างๆ รวมทั้งมาลัยซีก หรือมาลัยเสี้ยว มาลัยกลม มาลัยแบน มาลัยรี มาลัยสามเหลี่ยม มาลัยสี่เหลี่ยม มาลัยตุ้ม มาลัยสามกษัตริย์ และมาลัยพวงดอกไม้ และยังมีเครื่องแขวนประเภทให้กลิ่นรำเพยตามลม ใช้ในวัด วัง วิหารบ้านเรือน ในรูปทรงพวงระย้า เช่น กลิ่นคว่ำ ตาข่ายหน้าช้าง กลิ่นตะแคง ฯลฯ งานประดิษฐ์ดอกไม้รับใช้ชีวิตประจำวัน และวาระพิเศษของคนไทยมานาน ในหลายๆ รูปแบบ รวมทั้งที่จะเล่าถึงในวันนี้ด้วย คืองานในรูปของ “มาลัยตัวสัตว์” ที่เรานำกลีบและส่วนแยกต่างๆ ของดอกไม้มาร้อยเรียงให้เป็นรูปร่างคล้ายตัวสัตว์ที่ดูน่ารักน่าเอ็นดู เช่น หนู กระรอก กระแต เป็นต้น แต่เดิมประดิษฐ์ขึ้นแทนของที่ระลึกแก่ผู้มาร่วมงาน เช่นเดียวกับมาลัยชำร่วยนั่นเอง สำนักหนึ่งที่เปิดสอนวิชาว่าด้วยงานประดิษฐ์ดอกไม้ไทยอยู่เนืองๆ ตลอดปี คือ “พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้” Museum Of The Floral Culture ถนนสามเสน กรุงเทพฯ โดยคุณสกุล อินทกุล



 

การร้อยมาลัยกระแต มีองค์ประกอบหลักๆ คือ :

ส่วนหาง ที่ได้จากการนำดอกบานไม่รู้โรย (ใช้สีขาวก็ได้ ) มาเฉือนส่วนโคนดอกตามขวางให้บางลงแล้วเรียงเข้าด้วยกันบนลวดอ่อน หรือบนเข็มมาลัย ได้เป็นพวงหาง ที่สำคัญคือต้องควบคุมขนาดให้สม่ำเสมอ ร้อยไปจนได้ความยาวพอเหมาะแก่สัดส่วนของกระแตทั้งตัว สั้นไปก็จะกุด ยาวไปก็จะพิลึก คนทำงานฝีมือต้องสังเกตสังกา และหาจุดที่พอดีพอเหมาะด้วยตนเอง

ส่วนลำตัว นิยมใช้ดอกพุด หรือกลีบกุหลาบ กลีบกล้วยไม้สีอ่อนมาเรียงด้วยเทคนิคมาลัยตุ้ม (ต้นแคบ กลางป่อง และปลายแคบ) เพื่อให้เป็นลำตัวกลมรีของน้องกระแต

มีส่วนสำคัญที่ต้องค่อยนับกลีบทำ คือส่วนตาแป๋ว และหู จุดนี้ คนร้อยต้องเข้าใจผังของจำนวนกลีบดอกไม้ในการร้อยมาลัย และต้องสลับสี - ลงตำแหน่งกลีบสับหว่างให้ตรงที่ จึงจะเกิดเป็นตา หู จมูกของกระแต อีกหนึ่งส่วนประกอบคือกิ่งแก้ว และดอกไม้ประดิษฐ์จากดอกไม้สด ให้มีรูปทรงใหม่ๆ น่าสนใจและแปลกตา ในภาพ เป็นกุหลาบจำแลง ที่ได้จากการเลาะกลีบกล้วยไม้สีหวานออกมาจับทรงเข้าหากันอีกครั้ง ได้เป็นกุหลาบดอกใหม่ สดใสและคงทนหลายวัน

 

การประดิษฐ์กระแตไม่ใช่งานยาก เพียงต้องอาศัยความตั้งใจ ให้เวลาและความสำรวมจิตใจ หลายคนจึงบอกว่าการประดิษฐ์ดอกไม้ไทยคือการทำสมาธิไปในตัว เห็นผู้ถ่ายทอดวิชา และผู้เรียนที่เป็นทั้งชาวต่างชาติและชาวไทย ที่ยังมุ่งมั่นสอน และให้ความสนใจกับวิถีแห่งสยาม ทั้งยังช่วยกันรักษาให้สืบเนื่องตกทอดกันมาจนเป็นภูมิรู้ร่วมสมัย ก็คิดว่า "วิชา" จากมรดกไทยแขนงนี้คงไม่สูญไปง่ายๆ วิธีการ ทักษะ และฝีมือที่นักเรียนฝึกปรือจนได้มาติดตัวไว้ วันหนึ่งอาจจะใช้รบทัพจับศึกกับนานาชาติบนเวทีโลกเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจชาติก็ได้ ถือเป็นคุณสมบัติที่น่าภูมิใจไม่แพ้ผลงานที่ได้จากการเรียน


 


Comments


Post: Blog2_Post
  • Facebook
  • Facebook

©2021 by Jayasiri @ SIAM   HERITAGES    CONSULTANTS   BANGKOK

bottom of page