top of page

The Charite' @Berlin 1905

Writer: Jay JayasiriJay Jayasiri

Charite' ซีรี่เยอรมัน ความยาว 6 ตอน ว่าด้วยชีวิตของอาจารย์แพทย์ นักเรียนแพทย์ และการเรียนแพทย์ ที่ "ชาริเต้" : สถานพยาบาลอาคารเดียวกลางเมืองเบอร์ลิน ที่ก่อตั้งขึ้นมาเมื่อ 150 กว่าปีก่อน ชาริเต้เป็นสถานพยาบาล และเมื่อเกิดการถ่ายทอดวิชากันในขณะรักษา ก็ถือว่ามีโรงเรียนแพทย์ด้วย .. เมื่อร้อยปีก่อน ตามในซีรี่ ชาริเต้เป็นสถานที่ซึ่งตัวเอกเป็นลูกสาวคนสวยของแพทย์เรืองนาม ที่ชะตาชีวิตพลิกผันให้เธอต้องมาถูกโขกสับสารพัดในหน้าที่ผู้ช่วยพยาบาล และรับหน้าที่เป็นคนอันดับล่างสุดในสังคมนางพยาบาล ที่ถูกคุณแม่อธิการครอบงำให้ทำงานเพื่อรับใช้พระเจ้า คนเจ็บทั้งหลายจะหายหรือจะตายขึ้นอยู่กับพระกรุณา และดังนั้น เธอถูกคาดหวังให้เป็นปฏิปักษ์ต่อการค้นคว้า การรักษา และวิวัฒนาการทางการแพทย์ไปเสียอย่างนั้น


หนังแสดงให้เห็นความหลากหลายของชีวิตตัวละคร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาจารย์แพทย์หลายคนที่ก้าวขึ้นมาสู่ฐานะนักวิจัย ค้นคว้าวิธีแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่คุกคามคนในยุค 1900 ตั้งแต่วัณโรค คอตีบไปจนถึงการดูแลรักษาบุคคลสำคัญระดับชาติ ระดับโลก เช่นไกเซอร์ รวมถึงพระบรมวงศานุวงศ์ทั้งหลายในยุโรป


ชีวิตของคนเป็นหมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระดับอาจารย์แพทย์นั้นน่าจะเป็นชีวิตที่ยากที่สุดแบบหนึ่งในสังคมมนุษย์ ในภาคของความเป็นปุถุชน สังคมโรงเรียนแพทย์มีทั้งคนที่อยู่ในพื้นที่สว่าง พื้นที่สีเทา ไล่ไปจนถึงความมืดมนในชีวิตของอาจารย์แพทย์บางคน ทั้งที่มีปัญหาครอบครัว ปัญหาสารเสพติด ความทะเยอทะยาน การถูกเหยียดศาสนา ผลการวิจัยยาแบบตกบันไดพลอยโจน รวมทั้งเรื่องการชิงรักหักสวาทแบบอาจารย์แพทย์กับนักศึกษาหมายตานางพยาบาลแสนสวยคนเดียวกัน และการพิสูจน์ตัวเองของแพทย์รุ่นใหม่ผ่านชีวิตในห้องบรรยาย ที่มีการสาธิตทางการแพทย์ต่างๆ ไปจนถึงการผ่าตัดลงไปในสังขารมนุษย์กันแบบ “สอนสด” หน้าอัฒจรรย์ห้องเลคเชอร์ไม่เว้นแต่ละวัน



 

ภาพทั้งหมด : ภาพบุคคลจริงจากจากสารคดีเรื่อง Charite' ทางช่อง Youtube (ภาษาเยอรมัน สามารถตั้งค่า subtitle เป็นคำๆ ภาษาอังกฤษแบบ auto translation ได้


ไม่ว่าคนเราจะเกิดขึ้นมาในยุคไหน ผู้คนจากแต่ละสมัยล้วนแต่ได้ทำเรื่องราวในมือของเขามาแล้วอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะต้องเผชิญข้อจำกัดอะไรบ้างก็ตาม ผู้คนโดยรวมๆ ของแต่ละยุคสมัยล้วนแต่ได้ใช้เวลาในชีวิตของตัวเองไปอย่างคุ้มค่า ..

หลายคนอาจจะไม่เคยสนใจว่าในงานวิจัยยาและวัคซีน เมื่อทดลองในสัตว์ได้ผลในระดับหนึ่งแล้ว มนุษย์คนแรกที่จะถูกฉีดวัคซีน คือคนคิดค้นวัคซีนนั้นขึ้นมา เราจึงได้เห็นภาพที่อาจารย์แพทย์เรียกตัวผู้ช่วยวิจัยมาช่วยฉีดวัคซีนที่เพิ่งผสมขึ้นมาใหม่ๆ เข้าไปที่ท้ายทอยของตนเอง (คุณพระ!) รวมทั้งฉีดให้คนรัก และลูกศิษย์ กว่าจะไล่ไปถึงผู้ป่วย แพทย์ต้องทดลองกับตัวเองก่อน ซึ่งอาจจะไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด แต่คงเป็นวิธีที่เหมาะที่สุดที่จะทำได้ ในยุคสมัยนั้นๆ และที่สำคัญ - ไม่ใช่ทุกคนที่รอดตาย

..

คนทุกรุ่น ทุกยุคสมัย ล้วนแล้วแต่เคยใช้เวลา "ทั้งชีวิตหนึ่ง" ทำอะไรต่ออะไรมาแล้วมากมาย ดังนั้น สิ่งที่เราไม่ทันได้เห็น หรือเกิดไม่ทัน ก็ใช่ว่ามันจะไม่มีอยู่ โปรดอย่าปฏิบัติต่อคนเฒ่าคนแก่เยี่ยงสิ่งไร้ค่า แค่เพราะตอนที่เราเกิดมา เราไม่ทันเห็นวันเวลาที่เขาบากบั่นสร้างตัว เพื่อครอบครัว เพื่อสังคม และส่งมอบผลงานของเขาให้แก่คนรุ่นเรา

..

นักเรียนแพทย์ แพทย์ นักวิจัย และอาจารย์แพทย์ชื่อใหญ่ๆ สมัยนั้น จะรู้หรือไม่ว่า ล่วงเลยมาถึงปัจจุบัน เรามีวิวัฒนาการด้านการแพทย์ที่ก้าวหน้าไปมากเพียงไร ด้วยการต่อยอดจากงานที่คนยุคเก่าเริ่มไว้ให้ และคงตกใจที่รู้ว่าคนยุคเรากำลังต้องต่อสู้กับไวรัสและโรคร้ายต่างๆ อย่างหนักขนาดไหน

แม้ด้วยวิทยาการที่ดีที่สุดที่เราจะมีได้ แต่กระนั้น ก็ยังเป็นไปได้ว่าเราอาจจะไม่สามารถเอาชนะไวรัส โรคร้ายและความท้าทายใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อโลกใบเดิม มันแย่กว่าเดิม เพราะผู้คนและสังคมเปลี่ยนไป เราใช้วัคซีนตัวใหม่ต่อสู้กับโรคร้ายและใช้ต่อสู้กันเองด้วย


.. ส่วนที่ดีที่สุดของซีรี่ Charite' มาในตอนจบ คือในที่สุด เวลาชั่วหนึ่งชีวิตที่แต่ละคนในเรื่องอุทิศให้การค้นคว้าวิจัยทางการแพทย์ในซีรี่ชุดนี้ “เป็นของจริง” ตัวละครในเรื่องนี้มีตัวตนจริง จำนวน 3 ท่านได้รับรางวัลโนเบลสาขางานวิจัยทางการแพทย์ รางวัลที่เกือบจะต้องแลกมาด้วยชีวิตตัวเอง ปัจจุบัน สถานพยาบาล Charite' เป็นศูนย์การแพทย์ขนาดใหญ่มหึมา ตั้งตระหง่านเป็นสง่าอยู่ ณ ใจกลางมหานครเบอร์ลิน ราวกับเป็นจังหวัดเล็กๆ จังหวัดหนึ่ง และถือเป็นโรงพยาบาลที่มีโรงเรียนแพทย์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป .. Charite : “ชาริเต้” แปลว่า “ความกรุณา” ไม่ว่าวิวัฒนาการด้านการช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์จะก้าวหน้าไปแค่ไหน ขอให้ความกรุณาต่อเพื่อนมนุษย์จงก้าวตามไปพร้อมกัน เพราะเราอาจจะหลงลืมไป ว่ามนุษย์เราแต่ละรุ่นก็เป็นเสมือนบันไดขั้นหนึ่ง ในที่สุด จะต้องทอดกายให้คนที่เดินมาข้างหลังได้เดินสู่ที่ที่สูงกว่าปัจจุบัน ไม่ใช่สูงเฉพาะในด้านวิชาการ หรือด้านคุณภาพชีวิต การศึกษา หรือเศรษฐกิจเท่านั้น เพราะที่สำคัญกว่า คือควรสูงด้วย "สติ-ปัญญา-เมตตา" ในการอยู่ร่วมกันประสามนุษย์ รวมทั้งอยู่กับโลกทั้งใบอย่างเป็นมิตรกว่าที่แล้วมา

תגובות


Post: Blog2_Post
  • Facebook
  • Facebook

©2021 by Jayasiri @ SIAM   HERITAGES    CONSULTANTS   BANGKOK

bottom of page